การดีท๊อกซ์

 ภาพประกอบที่ 1 : การรับประทานผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ

ที่มา : http://singlemindedwomen.com/food-and-wine/detox-meals/

1.     ความหมายของการดีท๊อกซ์ (Detoxification)

ดีท๊อกซ์ (Detoxification) เป็นกระบวนการนำเอาของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกาย หรือนิยมเรียกกันสั้นๆว่า “การล้างพิษ” ของเสียโดยปกติพบในลำไส้ใหญ่ ตราบใดที่ร่างกายของเรายังทำงานเป็นปกติและเต็มศักยภาพ ของเสียและสารพิษต่างๆจะถูกขับออกจากร่างกายเป็นปกติอย่างสม่ำเสมอ 

ภาพประกอบที่ 2 : กระบวนการดีท๊อกซ์
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/varticle/329

1.1     ทำไมต้องล้างสารพิษหรือทำดีท๊อกซ์

หากร่างกายของเรามีโภชนาการที่เหมาะสมในปริมาณที่เพียงพอเพื่อให้มี สุขภาพดี และถ้าอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกำจัดและล้างสารพิษทำงานอยู่ในระดับที่มี ประสิทธิภาพดีที่สุด นั่นหมายถึงร่างกายสามารถกำจัดสารที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพผ่านกระบวนการกำจัดของเสียโดยอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการขับ ของเสียออกจากร่างกาย เช่น ผิวหนัง ลำไส้ ตับ ไต และ ปอด โดยการทำงานของร่างกาย สารพิษจะถูกขับออกผ่านทางเหงื่อ, ผ่านทางลำไส้ (การขับอุจจาระ), ผ่านทางปัสสาวะ และการหายใจ อย่างไรก็ตามหากร่างกายมีการรับสารพิษต่างๆเข้ามาอย่างต่อเนื่องยาวนานและใน ปริมาณมากเกินกว่าที่ระบบการกำจัดของเสียและสารพิษของร่างกายจะสามารถขับออก ได้หมดอย่างปลอดภัย ร่างกายก็จะเกิดสภาวะเสียสมดุลเรื้อรังจากสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย อาการเจ็บป่วยเรื้อรังส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสะสมของสารพิษที่เป็นอันตราย ต่อร่างกาย หรือในทางตรงกันข้าม สาเหตุอาจมาจากการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นระยะเวลายาวนาน เมื่อร่างกายได้รับสารพิษหรือสะสมของเสียต่างๆไว้เป็นเวลานานๆ ร่างกายก็จะยิ่งสูญเสียความสามารถในการกำจัดสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกาย ตามธรรมชาติ และนั่นยิ่งทำให้อวัยวะต่างๆอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ

ภาพประกอบที่ 3 : กระบวนการขับสารพิษ
ที่มา : http://ibio.co.th/WellUp-FOS-ฟอส-ดีท๊อกซ์

2.ประเภทของการดีท๊อกซ์

2.1     การดีท๊อกซ์อวัยวะ (Organ Detoxes) 

เป็นการดีท๊อกซ์อวัยวะส่วนต่างๆ เช่น การล้างพิษที่ตับ ไต ลำไส้ หรือ ปอด ซึ่งจะมีเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจงไปที่การทำความสะอาดและขจัดสิ่งตกค้างหรือ สารพิษรวมทั้งการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะที่ได้รับการดีท๊อกซ์ อย่างเฉพาะเจาะจง

ภาพประกอบที่ 4 : แสดงตำแหน่งตับและไตที่จะดีท๊อก
ที่มา : http://drinkingalkalinewater.com/ล้างพิษไตก่อนล้างพิษตับ.html

2.2     การล้างสารพิษที่เน้นการกำจัดสารโลหะหนัก (Heavy Metal Detox) 

เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพมากมายหลายปัญหา พิษของโลหะหนักเป็นสาเหตุหลักหรืออาจเป็นปัจจัยเสริมของอาการเจ็บป่วยหรือ โรคต่างๆหลายชนิด เช่น โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง, ความผิดปกติทางอารมณ์, มะเร็ง, ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ความเสียหายต่อระบบประสาทส่วนกลาง ความผิดปกติของต่อหมวกไต, โรคซึมเศร้า,โรควิตกกังวล, อาการแพ้ต่อสารเคมีต่างๆ และอีกมากมาย

2.3    การดีท๊อกซ์สัตว์จำพวกปรสิต หรือ พยาธิ (Specific Organism Detox) 

สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เป็นอันตรายเหล่านี้ หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ได้โดยการพึ่งพาร่างกายของมนุษย์เรา ใช้พลังงานจากเซลร่างกายของเรา อาศัยอาหารที่เรากิน สัตว์เหล่านี้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่เห็นได้โดยกล้องจุลทรรศ์เท่านั้น เช่น พยาธิ สัตว์เซลเดียว หนอน พวกมันสามารถขยายพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว สัตว์เหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายคนเราได้จาก อาหาร น้ำดื่ม แต่โดยส่วนใหญ่คนเรามักแพร่กระจายสัตว์เหล่านี้ผ่านทางมือของเราเองไปสู่ผู้ อื่นโดยมันอาจแฝงตัวอยู่ตามซอกเล็บและส่วนต่างๆของมือ

2.4    การดีท๊อกซ์จากสารบางอย่าง เช่น ยา หรือ แอลกอฮอล์ 

2.4.1     การดีท๊อกซ์จากแอลกอฮอล์ (Alcohol detoxification)

เป็นกระบวนการฟื้นฟูที่ทำให้ร่างกายของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักมา ต่อเนื่องกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การถอนพิษจากการติดแอลกอฮอล์ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญไม่เช่นนั้นอาจเป็น อันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก การล้างพิษจากแอลกอฮอล์ไม่ใช่การรักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง หลังจากกระบวนการล้างพิษแอลกอฮอล์แล้ว จำเป็นต้องทำการรักษาไปที่ต้นตอที่เป็นสาเหตุของการดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก ต่อเนื่อง

2.4.2    การดีท๊อกซ์จากการติดยา (Drug detoxification)

เป็นกระบวนการที่ช่วยบรรเทาหรือลดอาการจากการถอนพิษในขณะที่เราช่วยให้ ผู้ติดยาดำรงชีวิตโดยไม่ใช้ยา ขั้นตอนนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการบำบัดอาการเสพติดยาแต่เป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นในกระบวนการรักษาอาการเสพติดเท่านั้น การดีท๊อกซ์แบบนี้อาจใช้ตัวยาบางตัวในการรักษาหรือในบางกรณีอาจไม่จำเป็น ต้องใช้ตัวยาใดเลยก็ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วโปรแกรมการ

ดีท๊อกซ์หรือการรักษาแบบนี้มักจะไม่ทำในโรงพยาบาล หรือศูนย์การแพทย์แต่มักจะกระทำในที่พักอาศัยของผู้ติดยาและเป็นโปรแกรมระยะ ยาวต่อเนื่องหลายเดือน

2.4.3     การดีท๊อกซ์แบบโภชนาการบำบัด (Detox diets) 

การดีท๊อกซ์แบบโภชนาการบำบัดโดยปกติใช้เวลา 3-21 วันโดยมุ่งเน้นการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ถึงแม้ว่ากระบวนการกำจัดของเสียและสารพิษสามารถกระทำได้โดยธรรมชาติของร่างกาย แต่ร่างกายมักไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างสมบูรณ์อันเป็นผลมาจากสารพิษ จำนวนมากและหลากหลายประเภทรวมทั้งความเครียดที่เป็นตัวบั่นทอนประสิทธิภาพใน การกำจัดของเสีย และในที่สุดสารพิษและของเสียเหล่านี้ก็จะส่งผลลบและกระทบต่อการทำงานของระบบ อื่นๆของร่างกายด้วย

ภาพประกอบที่ 5 : การทานผักผลไม้เพื่อการดีท๊อกซ์
ที่มา : http://www.healthupdatetoday.com/product/detail-40937.html

2.5     การดีท๊อกซ์แบบ Fat Flush 

ภาพประกอบที่ 6 : เปรียบเทียบอาหารที่ไม่ควรทานกับผักผลไม้

ที่มา : http://women.thaiza.com/แผนไดเอ็ทยอดนิยม -แบบไหนผอมได้จริง -/250376/

2.6    การดีท๊อกซ์ด้วยสารอาหารรูปเจล

การดีท๊อกซ์แบบต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้นทำได้ค่อนข้างยาก บางวิธีต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่างและอาจต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วย บางวิธีต้องยุ่งยากกับการเตรียมผักและผลไม้จำนวนมากตามสูตร นายแพทย์ชนินทร์ ลีวานันท์จึง ได้คิดค้นสูตรที่เรียกว่า 10-10-10 ที่ช่วยในการล้างสารพิษภายในร่างกายได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ผลิตภัณฑ์สารอาหารรูปแบบเจลแทนผักและผลไม้จำนวนมาก ทำให้สะดวกและปลอดภัยทุกคนสามารถทำได้เองที่บ้าน

3.วิธีการล้างสารพิษที่ใช้ในกันปัจจุบัน

ก่อนที่จะทำการล้างสารพิษ ต้องตรวจเช็คสภาพร่างกายเราเสียก่อนว่าเหมาะกับร่างกายเราไหม และสามารถทำได้ไหม โดยปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ โดยการล้างสารพิษที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน คือ

3.1     การสวนด้วยกาแฟ (Coffee enema)

เป็นการล้างลำไส้ในส่วนต้น เนื่องจากด้วยในกาแฟประกอบด้วยสารคาเฟอีน ทีโอไฟลีน ทีโอโบรมีนซึ่งสารเหล่านี้มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเรียบซึ่งอยู่นอกเหนือ อำนาจควบคุมของจิตใจเกิดการคลายตัว ส่งผลทำให้หลอดเลือดและท่อน้ำดีขยายตัว สำหรับผลของกาแฟต่อร่างกาย ที่เกิดจากการดื่มกาแฟ นั้นแตกต่างการสวนลำไส้ด้วยกาแฟ เนื่องจากเส้นเลือดดำบริเวณลำไส้ใหญ่และทวารนั้นอยู่ไม่ลึกจากผิว ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคาเฟอีนจากกาแฟในขณะสวนล้างลำไส้ได้อย่างรวดเร็ว 

ภาพประกอบที่ 7 : ตัวอย่างผลิตภัณฑ์การดีท๊อกซ์ด้วยกาแฟ
ที่มา : http://www.lnwmarket.com/ชุดกาแฟดีท๊อกซ์ -100-กรัม --s116839p22

3.2     การล้างสารพิษ ฟื้นฟูหลอดเลือด ด้วยการทำคีเลชั่น (Chelation)

เป็นการกำจัดสารพิษโลหะหนักออกจากร่างกาย ซึ่งสารพิษโลหะหนักรวมถึงสารต่างๆ เช่นไขมัน คลอเลสเตอรอล ที่ตกค้างในร่างกาย จะทำให้เกิดพิษต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังนำวิธีการนี้มารักษาโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด การทำคีเลชั่น จะนำเอาสารพิษ สารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หรือแม้แต่ แคลเซียม ส่วนเกิน ซึ่งสะสมตกค้างในเนื้อเยื่อและพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดของเรา เพื่อขจัดออกโดยระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงจะช่วยในการฟื้นฟูหลอดเลือดเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับหลอดเลือด วิธีการก็ไม่ยากเพียงแต่นอนให้น้ำเกลือโดยในน้ำเกลือมีการผสมสาร ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ใช้เวลาครั้งละ 1- 2 ชั่วโมง เหมือนกับการให้น้ำเกลือทั่วไป

3.3     การสวนล้างลำไส้ (Colon Therapy)

การสวนล้างลำไส้เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมการกินอาหารของคนปัจจุบัน เช่น การกินอาหารขัดสี หรือมีกากใยน้อย ส่งผลให้ลำไส้ทำงานไม่ดีเพิ่มสารพิษให้ร่างกาย และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาการเจ็บป่วย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มาผลจากการเปลี่ยนอาหารการกินเป็นแบบตะวันตก การใช้ชีวิตและกิจวัตรประจำวันต่าง ๆเปลี่ยนไปมาก ผู้คนจึงเจ็บป่วยด้วยโรคบางอย่าง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นหนึ่งในโรคเหล่านั้นปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มมาก ขึ้นเรื่อย ๆ 

ภาพประกอบที่ 8 : อาหารแต่ละวันที่อยู่ในลำไส้
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=503322

4. ดีท๊อซ์ล้างพิษตามวิธีธรรมชาติบำบัดด้วยการกิน (DETOX IFYING FOODS)

ปัจจุบันการทำดีท๊อกซ์ เป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนที่หันมาใส่ใจรักในเรื่องสุขภาพ ซึ่งวิธีการล้างสารพิษออกจากร่างกายนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งสมุนไพรสำเร็จรูปสำหรับดื่มเพื่อล้างพิษ ไปจนถึงการทำดีท๊อกซ์ด้วยการสวนล้างลำไส้ แต่วิธีสุดท้ายนี้อย่ารีบร้อนไปทำเองโดยไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ ด้วยวิธีผิดๆ เพราะอาจเป็นอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตอย่างที่เป็นข่าวหน้าหนึ่งมาแล้ว ในกรณีชายหนุ่มเสียชีวิตหลังการทำ  ดีท๊อกซ์ล้างลำไส้ จนทำให้ร่างกายเสียน้ำ และเกลือแร่มากเกินไปจนช็อกหมดสติ และเสียชีวิตไปในที่สุด เห็นข่าวแบบนี้แล้วอาจทำให้หลายคนกลัว จนต้องถอยห่างออกจากวิธีนี้

ภาพประกอบที่ 9 : การล้างพิษด้วยผักผลไม้

ที่มา : http://www.hisoparty.com/beauty/Beauty-Tricks-Trips/DETOX-IFYING-FOODS

4.1          ใบบัวบก  ว่าไปแล้วใครจะไปรู้ว่าใบบัวบก นอกจากจะมีสรรพคุณช่วยแก้อาการ ช้ำใน ช้ำใจ และบำรุงร่างกาย และระบบประสาทแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยกำจัดสารพิษซึ่งสะสมในสมองและระบบประสาท และกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกายประเภทโลหะหนักได้ดี วิธีการรับประทานใบบัวบกล้างพิษ ให้นำใบบัวบกล้างให้สะอาด นำไปปั่นผสมกับน้ำเปล่าให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำมาดื่มได้เลย

4.2          น้ำมันมะพร้าว  ตอนเช้าก่อนมื้ออาหารให้บ้วนปากด้วยน้ำมันมะพร้าวหนึ่งช้อนโต๊ะ กลั้วผ่านไปมาระหว่างซี่ฟัน แล้วบ้วนทิ้ง และล้างช่องปากด้วยน้ำเปล่าอย่างน้อย 4-5 ครั้ง แล้วจึงทำการแปรงฟัน สิ่งที่จะเห็นได้ชัดขึ้นคือ ช่องปากของเราจะสะอาด และ ลมหายใจจะสะอาดขึ้น โดยฟันก็จะขาวขึ้นด้วย ปัญหาในช่องปากก็จะลดลง เวลาที่ดีที่สุดในการล้างพิษคือตอนเช้าก่อนอาหาร และสามารถ ทำซ้ำได้ สามเวลา คือก่อนมื้อแต่ต้องเป็นในช่วงท้องว่าง

4.3          แก้วมังกร  นอกจากจะมีสรรพคุณช่วยย่อยและระบาย ยังช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย มีธาตุเหล็กสูง และมีแคลเซียมบำรุงกระดูก มีฟอสฟอรัส กำจัดโลหะหนัก วิธีรับประทานทานก็ง่ายๆ แค่ผ่าครึ่งลอกเปลือกหรือใช้ช้อนตักรับประทานเลยก็ได้ หรือจะนำไปทำเป็นเครื่องดื่ม เสิร์ฟคู่ไอศกรีม ขนมหวาน ด้วยรสชาติหอมหวานแก้วมังกรก็สามารถทานคู่กับทุกอย่างได้กลมกลืนและกลมกล่อม อีกด้วย

4.4          ผักกาดหอม  สรรพคุณ ของผักกาดหอมนั้นมักใช้เป็นผักสลัดคุณสมบัติมีสารต้านมะเร็ง และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับผักสลัดที่มีสีเขียวอื่น ๆ ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของผักกาดหอมคือ ใบ เมล็ด และต้น ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันค่ะ วิธีรับประทานผักกาดหอมล้างพิษได้ดีก็คือ นำต้นผักกาดหอมทั้งต้นคั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้มาดื่ม ใช้ขับพยาธิ แก้พิษ ขับลม เป็นยาระบาย ส่วนใบผักกาดหอม น้ำคั้นจากใบ ใช้แก้ไอ ทำให้หลับง่าย แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดีเลยทีเดียว

4.5          น้ำมันมะกอก มีสถานบำบัดหลายที่ยกเอาสูตร น้ำมันมะกอก กับน้ำมะนาว มาเป็นสสารล้างพิษตับ เวลาถ่ายออกมาจะมีปฏิกูลที่หน้าตาเหมือนก้อนสีเขียวหลุดออกมาด้วย ​ซึ่งก็เป็นที่ถกเถียงกันว่านั่นคือก้อนอะไร ระหว่างก้อนนิ่วหรือเป็นเพียงก้อนไขมันที่มาจากน้ำมันมะกอกที่ดื่มเข้าไป 

4.6          น้ำมะนาว ในส่วนของน้ำมะนาวมีประโยชน์มากเพราะต้านอนุมูลอิสระและกรดแอสคอบิกที่ทำให้ ความเป็นกรดด่างภายในเกิดความสมดุลขึ้นมา แต่มีข้อควรระวังอยู่ตรงที่ไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง เพราะทำให้ระคายผิวเมือกนุ่มๆ ของกระเพาะและลำไส้ได้

4.7          ดีเกลือ เป็นการล้างพิษสูตรโบราณ ที่เชื่อว่านอกจากดีเกลือทำให้ระบายง่ายแล้ว ยังช่วยระบายนิ่วถุงน้ำดีให้ออกมาได้ด้วย ดังนั้นผู้ที่ควรระวังคือผู้สูงวัยและคนที่ท้องเสียง่ายอยู่แล้วอาจทำให้ เสียน้ำจนช็อกได้ 

4.8          โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง โยเกิร์ตอุดมไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์ที่คอยปกป้องลำไส้ ส่วนน้ำผึ้งช่วยระบาย แต่ต้องระวังท้องเสียได้

4.9          น้ำด่าง หรือ น้ำอัลคาไลน์ เป็นวิธีที่กำลังพูดถึงกันมาก แต่ไม่อยากให้ท่านดื่มเองโดยปราศจากการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากดื่มน้ำด่างมากเกินไปจะส่งผลต่ออวัยวะภายใน โดยเฉพาะกระเพาะและลำไส้ได้ 

4.10       กาแฟ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้แต่อย่าทำถี่เกินไป โดยเฉพาะในรายที่เป็นโรคหัวใจหรือความดันสูงที่ผลจากกาแฟจากการสวนจะมีผลไป ซ้ำเติมอาการได้ หรือแม้แต่ในคนปกติหากดีท็อกซ์ด้วยกาแฟบ่อยเกินไปก็จะทำร่างกายดูดคาเฟอีนเข้าไปสะสมมากเกินไป 

4.11       โสมและขมิ้นชัน ซึ่งในกรณีล้างพิษด้วยสมุนไพร 2 อย่างนี้ต้องใช้การรับประทานเป็นหลัก โดยให้ลดการรับประทานเนื้อแดง, ไขมันและน้ำตาลเพื่อลดขยะในร่างกาย ก่อนจะใช้โสมและขมิ้นชันเป็นตัวช่วย จะรับประทานแบบสดหรือแบบสกัดก็ได้ เพียงแต่ขอให้ระวังเรื่องโสม ในท่านที่มีความดันโลหิตสูงและไม่ควรรับประทานร่วมกับชากาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน 

4.12       คีเลชั่น เป็นวิธีการล้างพิษโลหะหนัก ด้วยการฉีดสารเคมีเข้าไปในเลือด ซึ่งมีพูดถึงกันมากแต่ก็ยังไม่ใช่วิธีมาตรฐานในตำราแพทย์ สังเกตได้จากโรงเรียนแพทย์ยังไม่มีการนำมาใช้ในคนทั่วไปนอกจากในกรณีคนไข้ รับเลือดมากจนธาตุเหล็กตกค้าง อย่างไรก็ตามวิธีที่กล่าวมาสามารถทำได้ แต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง และศึกษาผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

ภาพประกอบที่ 10 : น้ำผักผลไม้เพื่อการดีท๊อกซ์
ที่มา : http://derrickbryson.soup.io/post/390020758/Spring-Cleansing-Colon-Hydrotherapy

5.     ประโยชน์ของการดีท๊อกซ์

  « สุขภาพดีและชีวิตยืนยาว

เมื่อร่างกายได้ผ่านกระบวนการดีท๊อกซ์หรือล้างสารพิษ นั่นหมายถึงเราได้ทำการล้างและขับของเสียและสารพิษที่สะสมมานานอยู่ในร่าง กายออกไป ร่างกายโดยรวมจะรู้สึกเบาสบายขึ้น และเมื่อไม่มีของเสียหรือสารพิษ (หรือมีในปริมาณที่น้อย)ตกค้างอยู่ในร่างกายแล้ว อวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกำจัดของเสียหรือสารพิษก็เหนื่อยน้อยลงทำงานหนัก น้อยลง ร่างกายไม่เครียด การกำจัดความเครียดออกจากร่างกายทำให้ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ร่างกายจึงสามารถรักษาสภาพความเยาว์วัยไว้ได้นานขึ้น ระบบย่อยอาหาร ตับ และ ไต ของคนเราเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการกำจัดของเสียหรือล้างสารพิษ ตามธรรมชาติของร่างกายคนเรา เมื่อเราผ่านกระบวนการดีท๊อกซ์ เป็นการลดภาระการทำงาน ลดความเครียด ลดการทำงานหนักของอวัยวะเหล่านี้ ผลที่ได้ก็คือ อวัยวะเหล่านี้จะทำงานได้ดีขึ้น และจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ยาวนานมากขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายถึงเราจะสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้นตามไปด้วย

« ร่างกายสดชื่นและมีพลังงานเพิ่มขึ้น 

ภาพประกอบที่ 11 : การรู้สึกสดชื่นและมีกำลังกาย
ที่มา : http://health.spokedark.tv/2013/04/19/enema-detoxication-unnecessary/#.UwDJ1oVtZDM

กระบวนการดีท็อกซ์หรือล้างสารพิษจะช่วยเสริมการทำงานของกระบวนการดีท็อกซ์โดย ธรรมชาติของร่างกาย นั่นหมายถึงเรากำลังช่วยประหยัดพลังงานที่ร่างกายของคนเราต้องใช้ไปในการขับ ของเสียและสารพิษตามปกติ เมื่อของเสียและสารพิษได้ถูกขับออกไปแล้ว ร่างกายเราจะเบาสบายขึ้นจากการไม่ต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้ไว้ในร่างกายเหมือน แต่ก่อนเมื่อร่างกายมีภาระหน้าที่น้อยลงในการกำจัดของเสีย ของเสียตกค้างที่จะเป็นภาระแก่ร่างกายน้อยลง ร่างกายก็จะเข้าสู่สภาวะที่กระปรี้กระเป่ากะฉับกะเฉง และรู้สึกเหมือนมีพลังงานในการทำการงานต่างๆมากขึ้นโดยอัตโนมัติ ความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายและพละกำลังโดยรวมจะเพิ่มขึ้นภายหลังกระบวนการ ขับสารพิษหรือดีท็อกซ์

ภาพประกอบที่ 12 : การดีท๊อกซ์เพื่อสุขภาพ
ที่มา : http://www.spiritualquestionshelpline.com/all-about-god/nutrition-diet/how-to-detox/

วิธีการทำดีท๊อกส์

-ที่มาของเนื้อหา

วนัชพร วิณิชชานนท์.  (2551).  Detox วิธีการล้างสารพิษเพื่อสุขภาพ.  พิมพ์ครั้งที่ 1  นนทบุรี: อุทยานความรู้

เอมอร ตรีภิญญโญยศ.  (2550).  Detox ช่วยชีวิตกินล้างพิษอายุยืน.  พิมพ์ครั้งที่ 1  กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น

สถาพร มานัสสถิตย์.  (ปี 2549, พฤษภาคม).  ดีท็อกซ์-สวนล้างลำไส้.  นิตยสารหมอชาวบ้าน.  ฉบับที่ 326:/28

น.พ.กฤษดา ศิรามพุช.  (2556).  แนะ 8 วิธีล้างพิษด้วยตนเอง.  สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2557, จาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=ssnarak&date=02-12-2013&group=11&gblog=248

ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต.  (2557).  การล้างสารพิษมีประโยชน์จริงหรือ.  สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2557, จาก http://absolute-health.org/thai/Q-A-th-01.htm

สถาพร มานัสสถิตย์.  (2553).  การทำดีท็อกซ์ดีจริงหรือ. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2557, จาก http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=129

Supatra.  (2556).  DETOX IFYING FOODS : ดีท๊อซ์ล้างพิษตามวิธีธรรมชาติบำบัดด้วยการกิน.  สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2557, จาก http://www.hisoparty.com/beauty/Beauty-Tricks-Trips/DETOX-IFYING-FOODS

ชนินทร์ ลีวานันท์.  (2554).  การดีท๊อกซ์หรือการล้างสารพิษในร่างกาย.  สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2557, จาก http://detoxknowhow.com/book/export/html/15

This work is licensed under a Creative Commons Attribution 4.0 International License.